5 เคล็ดลับการเอาตัวรอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่คุณต้องรู้

5 เคล็ดลับการเอาตัวรอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่คุณต้องรู้

เคยหรือไม่เวลาขับรถยนต์แล้วจะต้องเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นยางรั่ว รถสตาร์ทไม่ติด หรือขับๆไปก็ดับกลางทาง  ฯลฯ ปัญหาเหล่านี้มักจะมีให้เห็นทุกวัน โดยเฉพาะหากเกิดขึ้นกับสาวๆ ที่ไม่คอยมีความรู้พื้นฐานทางด้านรถยนต์ด้วยแล้ว จึงไม่สามารถแก้ปัญหาหรือเอาตัวรอดได้ ณ เวลานั้น ซึ่งเรียกว่าเป็นอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่หลายๆ คนไม่อยากจะให้มันเกิดขึ้น โดยเฉพาะเวลากลางคืน บนถนนสายเปลี่ยว แค่คิดก็รู้สึกว่าไม่ปลอดภัยแล้ว วิธีเอาตัวรอดคร่าวๆ  จากเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้น อาจจะพอทำให้คุณรับมือและแก้ไขเพื่อช่วยลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้

 
1.ยางแตก อุบัติเหตุทางรถยนต์ ยอดฮิต
หากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ อย่างยางระเบิดหรือแตกกะทันหัน ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงความเร็วใด ควรที่จะจับพวงมาลัยให้แน่นและมั่นคง พยายามรั้งไว้ให้ตรงทิศทาง และอย่ากระชากเด็ดขาด ไม่ควรตกใจและเหยียบเบรกทันทีเพราะรถยนต์อาจหมุนปัดเป๋ ทำให้เสียการทรงตัวได้ ค่อยๆ ถอนคันเร่ง และลดความเร็ว โดยสามารถใช้เบรกได้เพียงเบา ๆ และต้องเหยียบสลับกับการปล่อย เพื่อไม่ให้น้ำหนักถ่ายลงไปด้านหน้ามากเกิน  หากต้องการเปลี่ยนยาง ควรดึงเบรกมือก่อนการขึ้นแม่แรง เพื่อป้องกันรถยนต์ไหล 

2.เบรกแตก อุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่น่าหวาดเสียว
รถยนต์ส่วนใหญ่จะใช้น้ำมันเบรกเป็นตัวถ่ายทอดแรงดันระหว่างการเหยียบเบรกของเท้าไปยังผ้าเบรก ทำให้อาจมีการรั่วซึมขึ้นได้จากการรั่วของลูกยางตัวใดตัวหนึ่ง การถ่ายทอดแรงดันก็จะสูญเสียลงไป หากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ อย่างเบรกแตกหรือน้ำมันเบรกเกิดการรั่ว ตั้งสติให้มั่น เมื่อเหยียบแป้นเบรกลงไปแล้วลึกต่ำกว่าปกติ พยายามเหยียบซ้ำแรง ๆ และถี่ ๆ เพื่อเป็นการใช้แรงดันในวงจรที่เหลืออยู่  จะทำให้ผ้าเบรกได้สร้างแรงเสียดทานขึ้นมาบ้าง และลดเกียร์ต่ำครั้งละ 1 เกียร์ จนกว่าจะถึงเกียร์ต่ำสุด แล้วจึงค่อยๆ ใช้เบรกมือช่วย  ด้วยการกดปุ่มล็อกค้างไว้ให้สุด เพื่อไม่ให้เบรกจนล้อล็อก จากนั้นดึงขึ้นแล้วปล่อยสลับกันไป เพื่อเป็นการลดความเร็ว  

3.รถหลุดออกจากทาง
อุบัติเหตุทางรถยนต์  ต่อมาคือรถหลุดออกนอกทาง ซึ่งอาจเป็นเพราะหักหลบสิ่งกีดขวางอย่างกะทันหัน ทำให้ไถลออกนอกเส้นทาง ควรตั้งสติให้มั่น ไม่ควรเหยียบเบรกทันที เพราะอาจทำให้ล้อล็อกหรือลื่นไถลจนทำให้เสียการทรงตัว พยายามควรลดความเร็วด้วยการแตะเบรกแล้วปล่อย และทำการลดจังหวะเกียร์ เพื่อใช้เครื่องยนต์ช่วยในการชะลอความเร็วอีกเล็กน้อย สายตาต้องมองทางไปข้างหน้า เพื่อหลบสิ่งกีดขวาง และไม่ควรหักหลบทันทีเพราะอาจพลิกคว่ำได้

4.คันเร่งค้าง อุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่เกิดบ่อย
การเกิดอาการคันเร่งค้างหากเป็นรถยนต์เกียร์ธรรมดา ให้ใช้เบรกในการชะลอความเร็วแต่ไม่ต้องแตะคลัตช์ และให้ใช้คลัตช์เฉพาะในการเปลี่ยนเกียร์ เพื่อช่วยลดความเร็วลงเมื่อจำเป็น  จากนั้นประคองรถยนต์เข้าสู่ไหล่ทางพร้อมกับค่อยๆ ใช้ปลายเท้าค่อยๆ สอดเข้าใต้แป้นคันเร่งเพื่อจัดการงัดขึ้น หากแป้นคันเร่งไม่สามารถงัดขึ้นได้ ให้บิดกุญแจเพื่อดับเครื่องยนต์ แต่อย่าบิดกุญแจกลับไปจนถึงขนาดที่พวงมาลัยล็อก และให้ใช้เบรกชะลอความเร็วลงเรื่อย ๆ จนถึงไหล่ทาง

5.เครื่องยนต์ร้อนจัดหม้อน้ำแห้ง
น้ำหม้อน้ำแห้ง หากไม่ได้เกิดจากการรั่วซึมผิดปกติ แต่เกิดจากการลืมเติมน้ำในหม้อน้ำ ก็ให้เติมน้ำเข้าไปให้เต็มได้ เพราะหากมีการรั่วและเมื่อคุณเติมน้ำลงไปก็จะทำน้ำรั่วออกมาอีก ซึ่งการเติมน้ำไม่ควรเกินครึ่งลิตร  ให้ทิ้งช่วงสัก 5 นาที ควรดับ เครื่องยนต์เพื่อรอให้เครื่องยนต์เย็นลง หาผ้าหนา ๆ มาคุลมฝาหม้อน้ำแล้วบิดออกเล็กน้อยเพื่อให้แรงดันภายในคลายตัวออก ทิ้งช่วงระยะเวลาประมาณ 2-3 นาที  แต่ให้ระวังไอหรือน้ำร้อนพุ่งขึ้นมา

 

สนใจซื้อประกันภัยการเดินทางไปกับ Askpauls ได้ที่ ซื้อประกันภัยรถยนต์

 


บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy